10 เรื่องที่คู่รักควรทำ หากทะเลาะกัน!

          เอ๊ะอะ ก็ทะเลาะๆ ! เรื่องแบบนี้หากคนที่มีความรัก  ก็ต้องเจอและยอมรับว่ามันเป็นธรรมดามากๆ แต่ที่เป็นปัญหามันอยู่ตรงที่ เมื่อทะเลาะแล้วเกิดจูน (คืนดี) กันไม่ได้หล่ะ จะทำไงดี? งั้น หนุ่มสาวที่ทะเลาะกับแฟนบ่อยๆ แล้วแก้ปัญหาไม่ได้ ลองอ่าน 10 เรื่องที่คู่รักควรทำ หากทะเลาะกัน! ก่อนนะคะ อาจจะช่วยอะไรได้บ้าง

1. ทะเลาะทีละเรื่อง (One by one)

อย่าขุดเอาความไม่พอใจเก่าๆ ขึ้นมายำใหญ่ใส่กันในทีเดียว เพราะแทนที่จะได้ข้อสรุปของหัวข้อที่ถกเถียงกันตั้งแต่แรก จะกลายเป็นการระเบิดสงครามอารมณ์ใส่กันเปล่าๆ

2. อย่าจับผิดรายละเอียดเล็กน้อย (Do not take the wrong details.)

อย่าเถียงกันว่าเขาลืมไปรับของสำคัญของคุณวันจันทร์หรือวันอังคาร ประเด็นคือ เขาลืมของสำคัญของคุณ ไม่ใช่ วันไหนที่เขาลืม

3. เริ่มต้นประโยคด้วยคำว่า ฉัน พูดว่า (Begin the sentence with the words I say.)

เริ่มต้นประโยคด้วยคำว่า ฉัน พูดว่า ฉันไม่พอใจเวลาคุณทำแบบนั้น แทนที่จะพูดว่า “คุณทำให้ฉันไม่พอใจเวลาทำแบบนั้น” การขึ้นต้นประโยคด้วยคำว่า คุณ จะทำให้ผู้ฟังรู้สึกกล่าวโทษ ขณะการขึ้นต้นด้วยคำว่า ฉัน คือการบอกกล่าวความรู้สึกของคุณ

4. อย่าพูดว่า ไม่เคย, เสมอ, ควร, ไม่ควร (Do not say never, always, should, should not)

เพราะเป็นคำที่ฟังดูแข็งกระด้าง และมีแนวโน้มจะทำให้ผู้ฟังไม่พอใจได้ง่าย และเอาเข้าจริงมันก็ไม่ถูกเสมอไป เช่น หากคุณพูดว่า “คุณไม่เคยจำเรื่องสำคัญของฉันได้เลย” รับรองได้ว่าเกือบร้อยทั้งร้อย อีกฝ่ายต้องตอกกลับมาว่า แล้วตอน….นั้นล่ะ

5. ใช้เหตุผลและความคิดเห็นที่เป็นของคุณ (Use your reasons and opinions.)

อย่าพยายามชักแม่น้ำทั้ง5 ด้วยการเอาความคิดเห็นของคนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย พึงระลึกไว้เสมอว่า นี่เป็นเรื่องของคุณสองคนเท่านั้น

6. พยายามอยู่ในอิริยาบถผ่อนคลาย (Trying to stay active in relaxation.)

และอย่าลืมหยุดพักหายใจ การนั่งลงและอยู่ในอริยาบถสบายๆ จะช่วยให้คุณสงบจิตสงบใจได้ดีกว่าการเดินพล่านไปทั่วห้อง

7. อย่าสบถ พูดคำหยาบคาย หรือด่าทอ (Do not speak profanity or abusive speech.)

การต่อว่าว่าเขาแสนจะขี้เกียจ อ้วนพุงพลุ้ย หรือคิดมากไม่เข้าเรื่อง ไม่เคยช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นได้เลย

8. พยายามสังเกตความรู้สึกของตัวเอง (Try to observe your own feelings.)

และบอกให้เขารับรู้ การบอกว่า “ฉันกลัวว่าคุณจะไม่รักฉัน” จะช่วยให้เขาเข้าใจคุณมากกว่าการพูดว่า ” คุณทำตัวเหมือนไม่รักฉันเลย”

9. อย่าขัดคอ อย่าเถียงขึ้นมา (Do not argue up.)

ขณะอีกฝ่ายกำลังอธิบาย หรือเอาแต่พูดพล่ามยืดยาวอยู่ฝ่ายเดียว หรือไม่พูดอะไรเลยและหวังว่าจะให้เขาอ่านใจคุณออก

10. ขอเวลานอก (Time out)

หากคุณหรือใครคนใดคนหนึ่ง เริ่มรู้สึกรุนแรงจนอาจควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ควรหยุดการถกเถียงและแยกย้ายไปสงบจิตสงบใจสักพัก จนอารมณ์เย็นลงด้วยกันทั้งสองฝ่าย แล้วจึงค่อยมาปรับความเข้าใจกันใหม่

10 อันดับคำบอกเลิก ยอดฮิต

          การเลิกลา เป็นเรื่องที่คู่รักไหนๆ ก็คงไม่อยากให้เกิดถูกต้องไหมคะ แต่เมื่อความรักจืดจางลง และต้องจบลงในไม่ช้า ทำให้หลายคู่เริ่มคิดหาคำพูดบอกเลิก เพื่อให้อีกฝ่ายไม่เจ็บปวด หรือไม่ก็ต้องพูดตรงๆ เพื่อให้ตัดใจได้ง่ายทั้งสองฝ่าย ดังนั้นวันนี้เรามาดู10 อันดับคำบอกเลิก ยอดฮิต นี้กันค่ะ ว่าจะมีคำพูดอะไรกันบ้าง?

                                           

อันดับ 1 เธอดีเกินไป (She is too good)

หลายคนโดยส่วนใหญ่เลือกใช้คำว่า เกินไป ในการบอกเลิกเพื่อทำให้ตัวเองดูดี หมายถึงอะไร? เธอไม่เหมาะกับเราหรือเราก็ไม่มีใจให้เธอแล้ว เธอนั้นดีเกินไป  เป็นคำปลอบใจ ของคนจะบอกเลิกกันเท่านั้นเอง เพียงแค่คำนี้หลายคนถึงกลับต้องเสียน้ำตา แต่ฝ่ายที่ถูกบอกเลิกก็คิดไว้ละกันว่าเราดีเกินไปสำหรับเขาหาใหม่ได้ไม่ยาก

อันดับ 2 เราเข้ากันไม่ได้ (We are not compatible)

ไม่ว่าจะพยายามลองปรับตัวให้เข้ากันแล้วเท่าไหร่ก็ตาม หรือบางคนอาจจะเลือกใช้มันเป็นข้ออ้างในการ  บอกเลิก  แต่สำหรับบางคนกลับรู้สึกแบบนั้นจริงๆ ทั้งๆ ที่ยังรักอยู่ แต่อย่าลืมว่า ไม่ว่าคุณจะเป็นฝ่ายที่พูดคำว่า “เข้ากันไม่ได้” หรือเป็นฝ่ายรับฟัง มันก็ต้องรู้สึกเจ็บปวดด้วยกันทั้งนั้น เพราะอย่างน้อยอาจหลงเหลือความผูกพันที่และความรู้สึกดีๆ ที่มีให้กันยังไงก็ต้องเสียใจ เหมือนของบางสิ่งบางอย่าง หายไปจากชีวิตเรา

อันดับ 3 ไม่มีเวลาให้ (Not time)

เวลาคือเครื่องท้าพิสูจน์ อีกหลายคนใช้คำนี้เพื่อเตือนใจเมื่ออยู่ห่างไกลกัน แต่บางคนที่มีเวลาแต่กลับเลือกที่จะไม่มีเวลาให้กับอีกฝ่าย เพียงเพราะเหตุผลของการไม่มีใจให้กัน  คำว่าไม่มีเวลา ปล่อยให้เกิดช่องว่างระหว่างกันและช่องว่างนี้เองที่จะทำไห้เกิดรอยร้าวได้
อาจจะเพราะทำให้อีกคนรู้สึกเหงาหรืออาจจะมีใครมาแทรกตรงกลาง ทำให้มีปัญหากันและเป็นสาเหตุของการเลิกราในที่สุด

อันดับ 4 เธอน่าเบื่อ (She is boring)

เธอน่าเบื่อ เกิดจากสาเหตุไหน ลองหันกลับมาดูตัวเองอีกครั้ง ให้อิสระแก่เขาและตัวเราโดยใช้เวลาอยู่กับตัวเองถ้าเขาจะเบื่อ คงเป็นความรู้สึกจากตัวเขาเอง หรือไม่เขาอาจไปเจอคนใหม่ แต่เขาไม่กล้าบอกดังเช่นคำว่า  มีรักที่ไหนมีทุกข์ที่นั่น  เป็นคำหนึ่งที่ทุกคนควรจะทราบกันดีดังนั้นรักตัวเองให้มากอย่าให้ใครมาทำร้ายจิตใจเรา ใจเราต้องอยู่กับเรา อย่าเอาไปให้คนไม่เห็นค่า

อันดับ 5 เธอน่ารำคาญ (She is annoying)

ไม่ว่าจะพยายามเป็นคนที่เข้าตาเท่าไหร่ แต่เมื่อหากคุณเป็นคนนอกสายตาไปแล้ว จะทำอะไรก็ไม่เข้าตาเขาหรอก คุณจะทำอะไรก็จะกลับกลายเป็นว่า  น่ารำคาญ  หลายคนคงจะชินกับคำว่ารำคาญกันบ้าง เมื่อความสำคัญหมดลง การเลิกราของคุณก็จะเข้ามาติดตัวทันที และมันก็จะเป็นเหตุผลหนึ่งของการบอกเลิกเช่นกัน

อันดับ 6 อยากอยู่คนเดียว (I want to be alone)

เชื่อเถอะว่าอีกหลายคนตอนคบกันแรกๆ บอก ฉันขาดเธอไม่ได้  ตอนหลังๆ ฉันอยากอยู่คนเดียว อีกเหตุผลของการบอกเลิก ลองคิดดูสิว่าคุณดูแลใส่ใจเขามากเกินไปหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่เหตุผลนี้ แสดงว่าเขาต้องการเลิก ด้วยคำพูดแบบนิ่มนวลแต่ดูดี ในเมื่อฝ่ายบอกเลิกต้องการที่อยากจะอยู่คนเดียว คุณก็ปล่อยเขาอยู่กับตัวเองเถอะ

อันดับ 7 ช่องว่างระหว่างวัย (Gap between ages)

หลายคนอาจบอกว่าอายุเป็นเพียงแค่ตัวเลข แต่บางครั้งตัวเลขเหล่านี้ก็มีผลกับชีวิตได้เหมือนกัน ถ้าอายุทำให้เกิดความต่างจนไม่สามารถปรับตัวเข้าหากันได้ คุณจึงควรรู้เสียก่อนว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง และคุณจะสามารถเปลี่ยนความคิดของตัวเอง เพื่อลดช่องว่างระหว่างวัยได้แค่ไหน ก่อนจะคิดคบกับคนที่อายุห่างกัน โดยดูจากสิ่งเหล่านี้ เหตุผลหลายอย่างที่เป็นเหตุผลหนึ่งของช่องว่างระหว่างวัย กลับนำมาเป็นข้ออ้างในการบอกเลิก เช่น ช่วงอายุ หน้าที่ที่แตกต่าง หรือแม้แต่มุมมองที่ต่างกัน

อันดับ 8 เธอยังไม่ใช่สำหรับเรา (She is not for us.)

เชื่อเถอะว่าหลายคนเลือกที่จะใช้คำนี้เพื่อเป็นการบอกเลิก และก็มีคำถามในใจต่อมาว่า ถ้าไม่ใช่สำหรับเขาแล้วจะมาคบเราทำไม ในเมื่อเราไม่ใช่สำหรับเขาจะทนคบกันทำไมให้เสียเวลา คำตัดความสัมพันธ์แบบไม่มีเยื่อใย อีกฝ่ายก็ควรทำใจเถอะถ้าเราไม่ใช่สำหรับเขายังไงก็ไม่ใช่เหมือนคำที่บอกว่า อย่าพยายามเป็นคนไม่เข้าตา

อันดับ 9 ห่างกันสักพัก (Stay Away)

ห่างกันสักพักดีไหม คำนี้ส่อแววของการบอกเลิก แต่ก็ไม่เชิงเสมอไป บางคนต้องการแค่ห่างแล้วกลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่บางคนอยากห่างเพียงเพื่อเพราะอยากเลิก แต่ส่วนใหญ่คำนี้ก็เป็นเหตุผลของการบอกเลิกอยู่แล้วเพื่อตัดความสัมพันธ์ ของอีกฝ่ายเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายไม่เสียใจ

อันดับ 10 เราเลิกกันเถอะ (Break up)

คำบอกเลิกที่ไม่ต้องคิดอะไร ไม่ต้องแคร์ความรู้สึกของฝ่ายโดนบอกเลิก เราเลิกกันเถอะ คำง่ายๆ แต่มีผลกระทบกับความรู้สึกของอีกฝ่าย คำนี้หลายๆคนคงจะได้ยินกันบ่อยจนชินชา แต่สำหรับคำนี้บางคู่เลิกกันและยังกับมารักกันใหม่ แต่อีกสำหรับบางคู่เลิกกันโดยที่ไม่สามารถกับมาเป็นเหมือนเดิมอีก เพราะแล้วแต่เหตุผลของคู่รัก

10 นิสัยแย่ๆ ของผู้หญิง ที่คุณอาจไม่รู้ตัว

1. ผู้หญิงแกล้งโง่ (Fake girl)

คุณไม่จำเป็นต้องทำตัวเฉิ่มเพื่อหว่านเสน่ห์ใส่หนุ่มๆเพราะมันจะดูไม่ดีไม่งาม ผู้หญิงฉลาดคือผู้หญิงเซ็กซี่ คุณต้องรู้จักอดทนบ้าง ผู้ชายไม่ชอบสาวๆสมองกลวงหรอก

2. ผู้หญิงที่ถูกหิ้วออกจากผับ (The girl was taken out of the pub.)

ทุกวันนี้การถูกหิ้วออกจากกระบะเสื้อผ้าลดราคาหรือร้านขายกระเป๋าลดกระหน่ำยังดูมีสไตล์กว่าการโดนหิ้วออกจากผับ และทุกอย่างจะเปลี่ยนไปเมื่อคุณอายุมากขึ้น

3. ผู้หญิงอวดแฟน (Ladies boo)

บางทีเพื่อนๆ อาจชอบแฟนของคุณมากกว่านี้หากคุณพูดถึงเขาน้อยลง

4. ผู้หญิงยึดฟลอร์เต้นรำ (Ladies anchor the dance floor.)

ผิดเต็มๆ คุณควรขยับออกไปบ้างเถอะจะมาสิงอยู่บนฟลอร์แบบนี้ตลอดไปได้อย่างไร

5. ผู้หญิงที่พยายามมากเกินไป (The woman is trying too.)

เต็มที่เลยคุณผู้หญิง เพราะเรารู้ดีว่าความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น

6. ผู้หญิงประจบประแจง (Cringe)

เราไม่อิจฉาหรอกต่อให้ชีวิตของคุณจะดีเลิศขนาดไหน แต่เราอิจฉาคุณเรื่องเดียวคือที่คุณขยันบริหารปากของตัวเองต่างหาก

7. ผู้หญิงบ้าผู้ชาย (Mad Men)

เธอเปลี่ยนแฟนใหม่ทุกสัปดาห์ยิ่งกว่าเปลี่ยนกางเกงในซะอีก บ่อยจนเพื่อนๆจำหน้าผู้ชายที่เธอควงไม่ได้แล้ว

8. ผู้หญิงช่างจ้อ (Ladies)

พฤติกรรมแบบนี้ถ้าไม่น่ารำคาญก็คงน่ารักอ่ะ นี่คือสิ่งที่คุณคิดหลังจากที่ได้พล่ามเรื่อยเปื่อยเกี่ยวกับเรื่องทรงผมนานกว่ายี่สิบนาที

9. ผู้หญิงที่ทำตัวหมดอาลัยตายอยาก (A woman who despairs)

เราไม่จำเป็นต้องแต่งตัวให้ดูโทรมๆ และมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับราคาของเสื้อผ้าแต่มันขึ้นอยู่กับตัวคุณต่างหาก อย่าทำตัวเหมือนคนที่หมดอาลัยตายอยาก เพราะมันไม่น่าชื่นชมเลยสักนิด ยิ้มเข้าไว้..เชื่อสิ

10. ผู้หญิงที่ใครๆ ก็เหลียวมอง (A woman who looks lively.)

ใครว่าการเป็นผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จเป็นเรื่องเลวร้าย? มีแต่คนให้ความสนใจมันไม่ดีตรงไหนเหรอ? แต่บางทีมันอาจเป็นดาบสองคมก็ได้ เพราะเราไม่รู้หรอกว่าผู้คนที่เข้ามาหาคุณเค้าหวังอะไรจากตัวคุณกันแน่ เค้าอาจจะแค่อยากเล่นเกมเอาชนะผู้หญิงสวยที่ใครๆก็หมายปอง มันอาจเป็นเกมสนุกๆ สำหรับผู้ชาย หลังจากที่เค้าได้ครอบครองคุณแล้วเค้าอาจจะจากไปแบบไม่ใยดีก็เป็นได้ การเป็นผู้หญิงสวยถือว่าโชคดี แต่ต้องฉลาดด้วยถึงจะดียอดเยี่ยม

เข้าใจนะสาวๆ! 10 นิสัยห้ามทำถ้าไม่อยากโดนทิ้ง

1. ไปเจ๊าะแจ๊ะกับคนอื่น (To be honest with you.)

ใครที่คิดจะลองใจแฟนหนุ่มด้วยการไปจิ๊จ๊ะกับหนุ่มอื่น เพราะอยากให้เขาแสดงอาการหึงออกมาบ้าง บางครั้งวิธีนี้อาจได้ผล แต่บางครั้งการทำแบบนี้อาจนำมาซื่งจุดจบของความสัมพันธ์ค่ะ เพราะนั่นแสดงว่า คุณไม่แคร์ความรู้สึกของเขาเลยสักนิด และถ้าเขาคิดจะไปเจ๊าะแจ๊ะกับสาวอื่นดูบ้าง อย่ามานั่งเสียใจทีหลังแล้วกันนะคะ

2.โกหก (Lie)

แม้ว่าการโกหกบางครั้งจะมีข้อดีอยู่เหมือนกัน เพราะความจริงที่พูดออกไปบางครั้งก็เป็นการทำร้ายเขา แต่ความรักคือการเชื่อใจค่ะ การโกหกไปเรื่อย จนทำให้แฟนหนุ่มของคุณหมดความเชื่อใจ มันคงไม่ดีต่อชีวิตคู่นักหรอกค่ะ

3.โกรธแล้วไม่พูดด้วย (Angry, do not talk)

ใครที่คิดว่าเมื่อโกรธกันแล้ว ต่างคนต่างเงียบเดี๋ยวก็ลืมแล้ว คุณคิดผิดแล้วล่ะค่ะ เพราะถ้าคุณคิดอย่าง เขาคิดอีกอย่าง แล้วไม่เปิดปากคุยกันให้จบๆ มีหวังบานปลายกว่าเดิม แถมผลสำรวจยังพบอีกว่า “การเก็บงำ การไม่แชร์ความรู้สึก การไม่สื่อสารกัน” เป็นต้นเหตุที่ทำให้คู่รักเลิกกันได้มากที่สุดเลยล่ะค่ะ

4.บอกเลิกทุกครั้งที่ทะเลาะกัน (I quit every time I quarreled.)

คำพูดที่ว่า ‘เลิกกันเถอะ’ เพราะอยากให้เขาแคร์ เขาง้อ หรือรั้งคุณไม่ให้เลิกกับเขา เลิกใช่เถอะค่ะ เพราะวิธีนี้จะใช้ได้ผล ก็ในช่วงแรกๆ เท่านั้นล่ะค่ะ หากทำหลายๆ ครั้งเข้า ผู้ชายที่ไหนมันจะไปทนได้ บางครั้งผู้ชายก็ไม่ได้อยากเป็นฝ่ายง้อ ฝ่ายตื๊อไปตลอดหรอกนะคะ

5.พูดจาข่มเขาต่อหน้าคนอื่น (I'm afraid of him in front of others.)

แม้นี่จะเป็นพฤติกรรมที่ผู้หญิงอย่างเราๆ ไม่ค่อยได้ทำมากเท่าผู้ชายก็ตาม แต่จำไว้เถอะค่ะว่า อย่าได้คิดข่มให้เขาดูด้อยต่อหน้าคนอื่นเด็ดขาด เพราะไม่มีผู้ชายที่ไหนอยากดูด้อยกว่าผู้หญิงหรอกค่ะ ถ้าอยากเป็นสาวเก่งในสายตาเขาควรเลือกให้ถูกเรื่องถูกเวลาดีกว่านะคะ

6.นัดไม่เป็นนัด (Appointment is not an appointment.)

การปล่อยให้ผู้ชายรอเป็นชั่วโมงๆ ไม่ใช่เรื่องดีนักหรอกค่ะ แม้แรกๆ เขาจะยอมตามใจคุณหรือพร่ำบอกว่านานแค่ไหนก็รอได้ แต่นานเข้าเขาอาจจะเบื่อ และปล่อยให้คุณรอเขาดูบ้าง หรือเบี้ยวนัดคุณบ้าง ผู้ชายบางคนก็มีความอดทนไม่มากพอหรอกนะคะ

7.เชื่อเพื่อนมากเกินไป (Believe friends too.)

แม้เพื่อนจะเป็นที่ปรึกษาชั้นยอดในเรื่องความรัก แต่บางครั้งความหวังดีของเพื่อน อาจเป็นเพียงการปลอบใจ และพูดเพื่อให้คุณรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง ซึ่งคนที่รู้ปัญหาจริงๆ ก็คือตัวคุณเองนั่นล่ะค่ะ ลองคิดทบทวนกับตัวเอง และพูดคุยกับแฟนหนุ่มอย่างใจเย็นดีกว่านะคะ

8.หึงแบบไร้ขีดจำกัด (Jealousy)

ก็จริงที่ว่า ความหึงมันห้ามกันไม่ได้ แต่สำหรับสาวบางคนที่ไม่อยากให้แฟนตัวเองไปไหนกับเพื่อนเลย จะต้องโทรเช็คโทรหาอยู่ตลอดเวลา แถมเวลามีเพื่อนผู้หญิงมาพูดด้วยก็จะหึง จะหวง จะพาลงี่เง่า อย่างนี้เขาเรียกว่าหึงจนน่ารำคาญ ระวังเขาจะทนไม่ไหวแล้วไม่อยู่ให้หึงนะคะ!!

9.ทำตัวเป็นเจ้าของมากเกินไป (Too much ownership.)

ไม่ใช่แค่ผู้หญิงเท่านั้นนะคะที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ผู้ชายก็มีอารมณ์แบบนั้นเช่นกันค่ะ ก็เข้าใจว่าบางทีคุณก็อยากอยู่กับเขาตลอดเวลา เขาจะไปไหนก็อยากไปด้วย ทำอะไรก็ทำด้วย แต่บางครั้งมันก็อาจจะมากไป ลองถอยออกมาสักนิด ให้เวลาส่วนตัวกับเขาบ้าง ความรักจะยืดแน่นอนค่ะ

10.เอาแต่ใจตัวเอง (Selfish)

บางคนอาจไม่รู้ตัวว่านิสัยเอาแต่ใจตัวเองเวลาอยู่กับแฟนมันมากขนาดไหน จำไว้ว่าไม่มีใครที่อยากจะเอาแต่ใจคนอื่นอยู่ฝ่ายเดียวหรอกค่ะ ฉะนั้นการเอาแต่ใจตัวเองก็ควรจะมีลิมิตบ้าง ไม่งั้นเขาคงเบื่อที่ต้องมานั่งตามใจคุณตลอดเวลา ซึ่งนั่นทำให้ชีวิตรักสั่นคลอนเอาได้ง่ายๆ เลยล่ะค่ะ